ในปี 2567 แฟชั่นในรัชกาลที่ 5 นั้นถือว่ามีความหลากหลายและมีการผสมผสานระหว่างวัฒนธรรมตะวันตกและตะวันออกอย่างลงตัว ในยุคนี้มีการนำเข้าเสื้อผ้าจากต่างประเทศเข้ามาเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งเสื้อผ้าจากฝรั่งเศส อังกฤษ รวมถึงประเทศอื่นๆ ในทวีปยุโรป ทำให้ผู้คนในไทยได้มีโอกาสสัมผัสและเรียนรู้เกี่ยวกับแฟชั่นใหม่ๆ ที่แตกต่างไปจากเดิม นอกจากนี้ยังมีการผสมผสานระหว่างเสื้อผ้าแบบดั้งเดิมของไทยกับเสื้อผ้าแบบตะวันตกอีกด้วย โดยนำมาประยุกต์ให้เข้ากับสภาพอากาศและวิถีชีวิตของคนไทย จนเกิดเป็นสไตล์เสื้อผ้าที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะและมีความสวยงามโดดเด่น
สำหรับผู้หญิงนั้นนิยมสวมเสื้อลูกไม้แขนยาว กระโปรงยาวเข้ารูป และรองเท้าส้นสูง ในขณะที่ผู้ชายนิยมสวมสูท กางเกงขายาว และรองเท้าหนัง นอกจากนี้ยังมีการนำผ้าไหมและผ้าฝ้ายมาใช้ในการตัดเย็บเสื้อผ้าอีกด้วย ในส่วนของเครื่องประดับนั้นนิยมสวมสร้อยคอ ต่างหู และกำไลข้อมือ โดยมักทำจากทองคำ เงิน หรืออัญมณีต่างๆ ส่วนทรงผมนั้นนิยมเกล้าผมสูงประดับด้วยมงกุฎหรือดอกไม้
นอกจากเสื้อผ้าเครื่องแต่งกายแล้ว ในรัชกาลที่ 5 ยังมีการนิยมของใช้และเครื่องประดับต่างๆ ที่เป็นสไตล์ยุโรป ไม่ว่าจะเป็นนาฬิกา พัด พับ และอื่นๆ อีกมากมาย รวมถึงการใช้เครื่องสำอางเพื่อเพิ่มความงามให้กับใบหน้า เช่น การใช้แป้งทาหน้าเพื่อปกปิดริ้วรอยต่างๆ และการใช้ลิปสติกเพื่อเพิ่มสีสันให้กับริมฝีปาก ทำให้แฟชั่นในรัชกาลที่ 5 นั้นมีความหลากหลายและสวยงามอย่างมาก จนเป็นที่นิยมมาจนถึงปัจจุบัน
